สถิติ
เปิดเมื่อ6/02/2012
อัพเดท31/03/2012
ผู้เข้าชม39467
แสดงหน้า47278
บทความ
บทความทั่วไป/General articles
ความรู้เกี่ยวกับการคุ้มครองแรงงานหญิง ขณะตั้งครรภ์
อาหารสำหรับคนท้อง
สัญญาณ 10 ประการของตั้งครรภ์
พัฒนาการทารกในครรภ์/Development of the fetus
พัฒนาการของทารกในครรภ์ ระยะ 31-40 สัปดาห์
พัฒนาการของทารกในครรภ์ ระยะ 23-30 สัปดาห์
พัฒนาการของทารกในครรภ์ ระยะ 15-22 สัปดาห์
พัฒนาการของทารกในครรภ์ ระยะ 8-14 สัปดาห์
พัฒนาการของทารกในครรภ์ช่วง 1-7 สัปดาห์
โรคในหญิงตั้งครรภ์/Disease in pregnant women
การดูแลสุขภาพช่องปากในหญิงตั้งครรภ์
11 โรคอันตรายสำหรับคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์
การออกกำลังกายในหญิงตั้งครรภ์/The exercise in pregnant women
โยคะสำหรับหญิงตั้งครรภ์
การออกกำลังกาย ขณะตั้งครรภ์
แทนความรู้สึกจากใจของแม่/The feeling of my mother
ครั้งที่สองที่เราพบกัน
ครั้งแรกที่เราพบกัน(การฝากครรภ์ครั้งแรกในชีวิต)
วันแรกที่รู้ว่าตั้งครรภ์!!
ปฎิทิน
April 2024
Sun Mon Tue Wed Thu Fri Sat
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
    




การออกกำลังกาย ขณะตั้งครรภ์

อ่าน 832 | ตอบ 1

             จากประสบการณ์รับฝากครรภ์และคลอดบุตร จะได้รับคำบอกเล่าจากผู้ฝากครรภ์เสมอ ๆ ว่า

 

อ่อนเพลีย ท้องอืด ท้องผูก ปวดหลัง นอนไม่ค่อยหลับ  อยู่บ่อย ๆ ผมมักจะแนะนำให้มีการออกกำลังกายบ้างขณะตั้งครรภ์  แต่ก็ยังไม่เคยพูดกันให้เป็นกิจจะลักษณะ เพราะต้องมีการอธิบายมาก และมีความคิดอยู่เสมอว่าน่าจะทำให้สตรีตั้งครรภ์ได้เข้าใจว่าถ้าจะออกกำลังกายขณะตั้งครรภ์ทำได้หรือไม่เพียงใด สิ่งใดควรทำ สิ่งใดไม่ควรทำ ยิ่งถ้ามีสถาบันใดเปิดคอร์สฝึกสตรีตั้งครรภ์ออกกำลังกาย น่าจะได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก  เพราะการออกกำลังกายขณะตั้งครรภ์น่าจะมีผลดีต่อสตรีและทารกในครรภ์ 


ได้เรียบเรียงบทความบางตอนมาจากสมาคมสูตินรีแพทย์อเมริกัน  ที่แนะนำการออกกำลังกายสำหรับสตรีตั้งครรภ์ดังนี้ คือ 

ผลดีจากการออกกำลังกายขณะตั้งครรภ์

          การที่สตรีตั้งครรภ์มีน้ำหนักขึ้นเรื่อย ๆ และรู้สึกเหนื่อย  อ่อนเพลีย  และมีอาการต่าง ๆ เป็นสิ่งธรรมชาติที่เกิดขึ้น  การออกกำลังกายเป็นประจำประมาณวันละ 30 นาที  จะช่วยให้มีประโยชน์คือ
1. ช่วยลดอาการปวดหลัง  ท้องอืด  ท้องผูกและอาการบวม
2. เพิ่มกำลังวังชา  ความแข็งแรงทนทานของกล้ามเนื้อ
3. ช่วยให้ท่าทาง (Posture) ดี
4. ช่วยทำให้จิตใจสดชื่นแจ่มใส
5. ช่วยป้องกันไม่ให้มีอาการสำหรับคนที่มีความโน้มเอียงเป็นเบาหวานขณะตั้งครรภ์
6. ช่วยให้นอนหลับดีขึ้น 

การออกกำลังกายสม่ำเสมอยังทำให้ร่างกายฟิตแข็งแรง  และทนต่อความเจ็บปวดขณะการตั้งครรภ์และการคลอดได้ดีขึ้น  ช่วยให้การฟื้นตัวของรูปร่างหลังคลอดเร็วขึ้นด้วย 

การเปลี่ยนแปลงของร่างกายขณะตั้งครรภ์ที่ควรทราบเกี่ยวกับการออกกำลังกาย  คือ

            1. ข้อและเส้นเอ็นตามจุดต่าง ๆจะยืดบวมและหลวมกว่าก่อนตั้งครรภ์  จึงเสี่ยงต่อการเกิดบาดเจ็บ  ถ้ามีการออกแรงมาก ๆ ในการกระตุก กระแทก กระเทือนรุนแรง

           2. สมดุลของร่างกายในการทรงตัวเปลี่ยนไป  เพราะท้องที่โตขึ้น  ทำให้อวัยวะบางส่วนรับน้ำหนักมากเกิน เช่น ตะโพกและหลัง  เนื่องจากน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นและจุดศูนย์ถ่วงที่เปลี่ยนไป  ทำให้มีปัญหาหกล้มง่ายกว่าธรรมดาโดยเฉพาะช่วงท้ายของการตั้งครรภ์ 

            พบว่าเมื่อมีการออกกำลังกาย  จะมีการไหลเวียนของเลือดและออกซิเจนไปยังกล้ามเนื้อที่ทำงานมากขึ้นกว่าธรรมดา  ทำให้ส่วนอื่น ๆ ได้รับน้อยลง  ท่านจึงต้องคอยระวังคำนึงถึงข้อนี้ด้วย  นั่นคือระดับการออกกำลังกายควรอยู่ที่ระดับปานกลาง  ไม่ควรทำหนักมาก  (เมื่อไรที่ท่านสามารถพูดได้เป็นปกติขณะที่กำลังออกกำลังกาย  แปลว่าตอนนั้นยังไม่ได้ทำมากเกินไป) 

เริ่มต้นอย่างไรดี

             เริ่มต้นเลย  ควรถามแพทย์ว่าท่านออกกำลังกายได้หรือไม่  มีข้อห้ามอะไรหรือเปล่า  ทั้งในแง่สภาพของครรภ์และสภาพร่างกายของท่าน  ถ้าปกติชอบออกกำลังกายอยู่แล้วให้ถามว่าประเภทการออกกำลังกายที่เคยทำอยู่นั้น  ยังคงทำอยู่ได้หรือเปล่า  และประเภทไหนที่เหมาะกับคุณมากที่สุด 

ถ้าท่านมีสิ่งเหล่านี้....เป็นข้อห้ามในการออกกำลังกายหรือต้องคุยกับแพทย์ก่อน 
1. มีปัจจัยเสี่ยงต่อการคลอดก่อนกำหนด เช่น เนื้องอกมดลูกโต ๆ  ปากมดลูกเปิดก่อนกำหนด ครรภ์แฝด

2. กำลังมีเลือดออกจากช่องคลอด  หรือมีประวัติเลือดออกขณะตั้งครรภ์

3. มีถุงน้ำคร่ำแตกก่อนกำหนด  ข้อนี้เป็นข้อห้ามเด็ดขาด 

นอกจากนี้อาจมีอาการหรือโรคที่เป็นอยู่แล้วบางอย่างก่อนหรือขณะตั้งครรภ์ เช่น ความดันโลหิตสูง  เป็นต้น

เลือกประเภทออกกำลังกายที่ปลอดภัยด้วย

           ปกติการออกกำลังกายทั่วไปจะปลอดภัย  แต่มีบางอย่างที่ท่าทางและการเคลื่อนไหวไม่เหมาะ  หรือเป็นอันตรายต่อผู้ที่ตั้งครรภ์ เช่น หลังจากตั้งครรภ์เกิน 3 เดือน แล้วไม่ควรเลือกท่าที่ต้องนอนหงายนาน ๆ หรือ ยืนนิ่ง ๆ นาน ๆ 

ประเภทการออกกำลังกายที่ปลอดภัยมาก  ได้แก่ 

           1. การเดิน  การเดินเป็นการออกกำลังกายที่ดีของทุกคน  ควรเดินเร็งเพื่อให้ร่างกาย  กล้ามเนื้อและข้อต่อต่าง ๆ ได้ออกกำลัง  ท่านที่ไม่เคยออกกำลังกายเลย  การเดินจะเป็นการออกกำลังกายที่ดี

           2. ว่ายน้ำ  การว่ายน้ำจะเป็นการออกกำลังกายกล้ามเนื้อและข้อต่อหลายส่วนด้วยกัน  น้ำยังช่วยพยุงร่างกายไม่ให้เกิดหกล้มอุบุติเหตุ  เหมาะกับการออกกำลังกายในทุกช่วงอายุครรภ์

           3. การถีบเครื่องปั่นจักรยาน  การปั่นจักรยานจริง ๆ ก็เป็นการออกกำลังกายแอโรบิคที่ดี  เหมาะสำหรับตั้งครรภ์ไม่เกิน 3 เดือน  การเปลี่ยนแปลงของร่างกายเมื่อเกิน 3 เดือนแล้วอาจเป็นอุปสรรคทำให้เกิดอุบัติเหตุง่าย  จึงควรเปลี่ยนเป็นเครื่องปั่นจักรยานอยู่กับที่หลังจากนั้น

           4. การออกกำลังกายแบบแอโรบิค  จะช่วยให้หัวใจและปอดแข็งแรง  เกิดความคล่องแคล่วว่องไวไม่หกล้มง่าย การทำแต่พอดี  หรือการเล่นแอโรบิคในน้ำจะมีประโยชน์มาก  

ชนิดของการออกกำลังกายที่ยังปลอดภัยถ้าทำแบบไม่หักโหมเกินไป 

           1. การวิ่ง  ดีในขณะตั้งครรภ์อ่อน ๆ เกิน 4 เดือนแล้วควรลดหรืองด

           2. กีฬาประเภทแบดมินตัน เทนนิส  ปิงปอง  อาจมีอุบัติเหตุได้  จากการเคลื่อนไหวเร็ว ๆ จึงควรพิจารณาระดับการเล่น

           3. การออกกำลังกล้ามเนื้อ  เช่น ยก weight ช่วยให้กล้ามเนื้อแขน ขา แข็งแรง  ป้องกันอาการปวดต่างๆ ขณะตั้งครรภ์ได้

           4. ดำน้ำลึก ๆ 

ทำให้เป็นประจำ

            ถ้าออกกำลังกายเป็นประจำได้จะดีมาก และมักจะทำได้ดีในครึ่งแรกของการตั้งครรภ์คือ ก่อน 5 เดือน  หลังจากนั้นการเปลี่ยนแปลงของร่างกายจะทำให้ออกกำลังกายลำบากขึ้น  และมีข้อจำกัดมากขึ้น 

ในการเริ่มต้นออกกำลังกายควรเริ่มทำน้อย  ๆ ระยะเวลาสั้น  ๆ ก่อน เช่น เริ่มต้นที่ 5 นาที  แล้วค่อยเพิ่มทุก ๆ 5 นาทีต่อสัปดาห์  จนถึงวันละ 30 นาที 

ออกกำลังกายควร warm up ก่อน 5-10 นาที  เพื่อให้กล้ามเนื้อยืดตัวและเตรียมตัว และควรทำ cool down 5-10 นาทีหลังจากออกกำลังแล้ว  เพื่อให้หัวใจกลับมาเต้นเป็นปกติ

ข้อควรระวัง

           เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงของร่างกายขณะตั้งครรภ์มาก  จึงควรระมัดระวัง

           1. อย่าเคลื่อนไหวที่เป็นการกระโดด  กระเทือน  การเคลื่อนไหวที่เปลี่ยนแปลงทิศทางเร็ว ๆ ซึ่งจะเป็นอันตรายต่อกล้ามเนื้อและข้อต่อ และอุบัติเหตุ

           2. อย่าทำในที่ร้อนหรือทำให้เกิดความร้อนในร่างกายสูงเกินไป  เพราะทำให้เกิดการขาดน้ำ

ข้อแนะนำ
1. หลังครรภ์ 3 เดือนแล้ว  ไม่ควรออกกำลังกายอะไรที่เกี่ยวข้องกับกล้ามเนื้อและกระดูกหลัง

2. หลีกเลี่ยงออกกำลังกายมาก ๆ ในที่ร้อน อบอ้าว หรือ ขณะที่มีไข้

3. ใส่เสื้อผ้าที่อากาศถ่ายเทสะดวก

4. ใส่ยกทรงที่พยุงทุก  ๆ ส่วนของเต้านม

5. ดื่มน้ำมาก ๆ ขณะออกกำลังกาย

6. รับประทานอาหารให้เพียงพอ

อาการเตือนที่ควรหยุดออกกำลังกายหรือยังไม่ควรออกกำลังกาย
1. มีเลือดออกจากช่องคลอด
2. อาการหน้ามืด  เวียนศีรษะ  เป็นลม
3. รู้สึกหายในลำบาก
4. เจ็บหน้าอก
5. ปวดศีรษะ
6. รู้สึกกล้ามเนื้ออ่อนแรงลง
7. บวมหรือปวดที่น่อง
8. มดลูกบีบตัว
9. เด็กดิ้นน้อย
10.มีน้ำไหลออจากช่องคลอด (น้ำเดิน)

โดย นพ.ธีรศักดิ์  ธำรงธีระกุล และทีมแพทย์ศูนย์รักษาผู้มีบุตรยากและผ่าตัดผ่านกล้องทางนรีเวช 

ที่มา : http://www.vibhavadi.com/fertility/knowledge_detail.php?id=103&topic=8

ความคิดเห็น :
1
อ้างอิง

Sue
 
Sue [68.202.141.xxx] เมื่อ 13/11/2019 11:24
ความคิดเห็นของผู้เข้าชม
ชื่อผู้แสดงความคิดเห็น :
สถานะ : รหัสผ่าน :
ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง :
รหัสความปลอดภัย :